แชร์ 5 วิธีทำให้น้องแมวตัวแน่น น่ากอด!
อยากให้แมวตัวแน่น ขนฟู น่ากอด ต้องทำยังไง?
เคยไหม…อุ้มแมวแล้วรู้สึกว่า เอ๊ะ! ทำไมน้องดูผอมไปหน่อย? หรือกอดแล้วไม่เต็มไม้เต็มมืออย่างที่คิดไว้? ถ้าใช่! มาทางนี้เลย เพราะวันนี้เราจะมาแชร์ 5 วิธีทำให้น้องแมวตัวแน่น น่ากอดแบบสุดๆ พร้อมขนฟู นุ่มลื่น จนต้องกอดทั้งวัน! ไปดูกันเลยว่ามีวิธีไหนบ้าง~
1. เลือกอาหารแมวที่ช่วยเพิ่มน้ำหนักและบำรุงขน
อาหารเป็นปัจจัยหลักที่จะช่วยให้น้องแมวของเราตัวแน่น ขนฟู และสุขภาพดีสุดๆ ลองเลือก อาหารแมวยี่ห้อไหนกินแล้วอ้วน แบบมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เช่น DESERVE Holistic Grain Free ที่มี Real Fresh Meat เป็นวัตถุดิบหลัก ช่วยให้แมวได้รับโปรตีนคุณภาพสูง ดูดซึมง่าย และเสริมสร้างกล้ามเนื้อเต็มๆ
📌 แนะนำสูตรเด็ดสำหรับแมวตัวแน่น ขนสวย
🐟 Fresh Trout & Chicken – บำรุงสมองและหัวใจ
🐠 Fresh Salmon & Chicken – บำรุงขนและผิวหนัง ลดอักเสบ ลดขนร่วง
🐔 Grain Free Turkey – ดูแลระบบย่อยอาหารที่บอบบาง
ทำไมน้องต้องกิน DESERVE?
✅ Real Meat as 1st Ingredient – ใช้เนื้อสัตว์คุณภาพสูง ไม่มี By-Product
✅ Superfood Blend – มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เสริมสร้างร่างกายแข็งแรง
✅ Pre & Probiotic Synergy – ปรับสมดุลลำไส้ เสริมภูมิคุ้มกัน
✅ All Natural – ไม่มีเกลือ ไม่มีสารปรุงแต่ง สี กลิ่น
✅ มาตรฐาน AAFCO, HACCP, ISO
📌 ช้อปเลย DESERVE อาหารเม็ดแมวตัวแน่น: คลิกที่นี่
2. ปรับตารางมื้ออาหารให้เหมาะสม
อยากให้น้องแมวอ้วนขึ้น ต้องให้กินถูกเวลา! ลองแบ่งอาหารเป็น 3-4 มื้อต่อวัน และให้ปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากไป ไม่น้อยไป โดยเฉพาะแมวที่ผอมมากๆ อาจต้องเพิ่มอาหารเสริม เช่น อาหารเปียก หรือขนมที่มีไขมันดี
📌 ทริคเล็กๆ:
✔ เลือกอาหารที่มีโปรตีนสูง ไขมันพอเหมาะ
✔ เสริมอาหารเปียกเป็นบางมื้อ เพื่อเพิ่มความอยากอาหาร
✔ ให้กินตามเวลา เพื่อให้ร่างกายเรียนรู้พฤติกรรมการกิน
✔ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงเกินไป เพราะอาจทำให้น้องอ้วนแบบไม่สมส่วน
✔ หมั่นสังเกตน้ำหนักแมวเป็นระยะ เพื่อปรับปริมาณอาหารให้เหมาะสม
🕒 ตารางอาหารแนะนำสำหรับแมวที่ต้องการเพิ่มน้ำหนัก:
- เช้า (07:00 – 08:00 น.): อาหารเม็ด 1/3 ถ้วย + อาหารเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
- กลางวัน (12:00 – 13:00 น.): ขนมแมวเลีย หรือขนมที่มีโปรตีนสูง
- เย็น (17:00 – 18:00 น.): อาหารเม็ด 1/3 ถ้วย + อาหารเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
- ก่อนนอน (21:00 – 22:00 น.): อาหารเม็ด 1/4 ถ้วย เพื่อให้แมวไม่หิวตอนกลางคืน
ข้อควรระวัง: ไม่ควรให้อาหารแมวทิ้งไว้นานเกินไป โดยเฉพาะอาหารเปียก เพราะอาจเกิดการบูดเสีย และอาจทำให้น้องแมวป่วยได้
3. กระตุ้นการออกกำลังกายให้แมวสร้างกล้ามเนื้อ
การที่แมวตัวแน่น ไม่ได้หมายถึงแค่มีไขมันเพียงอย่างเดียว! เราต้องช่วยให้น้องสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงไปพร้อมๆ กัน เพื่อให้รูปร่างสมส่วน และสุขภาพดี
🏋️♂️ ทำไมแมวต้องออกกำลังกาย?
- ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ – แมวที่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำจะมีกล้ามเนื้อแน่น และกระชับมากกว่าแมวที่ไม่ค่อยได้ขยับตัว
- กระตุ้นการเผาผลาญ – การเคลื่อนไหวช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดีขึ้น ทำให้แมวอ้วนแบบสุขภาพดี
- ลดความเครียด – การเล่นช่วยให้แมวผ่อนคลาย และลดพฤติกรรมก้าวร้าว เช่น ข่วนหรือกัดเจ้าของ
- ช่วยให้แมวเจริญอาหาร – แมวที่ออกกำลังกายจะมีความอยากอาหารมากขึ้น ทำให้สามารถกินได้มากขึ้น
🎾 กิจกรรมแนะนำให้แมวได้ขยับตัว
✅ เล่นกับไม้ตกแมว – กระตุ้นสัญชาตญาณนักล่า ให้วิ่งไล่เหยื่อเสมือนจริง
✅ ให้ของเล่นที่เคลื่อนไหวได้ – เช่น ลูกบอลอัตโนมัติ หรือของเล่นที่มีเสียง เพื่อดึงดูดให้แมวสนใจ
✅ สร้างคอนโดแมว – ให้แมวได้ปีนป่ายและออกกำลังแบบธรรมชาติ
✅ เล่นซ่อนแอบ – เจ้าของสามารถซ่อนของเล่น หรือขนมไว้ แล้วให้แมวออกตามหา
✅ ฝึกให้แมวเดินออกกำลังกาย – ถ้าแมวไม่กลัวสายจูง อาจลองพาเดินเล่นในบ้านหรือบริเวณที่ปลอดภัย
🕒 ตารางการออกกำลังกายที่เหมาะสม
- เช้า (08:00 – 09:00 น.): เล่นกับไม้ตกแมว 10-15 นาที
- กลางวัน (12:30 – 13:00 น.): ให้ของเล่นแมวแบบอัตโนมัติ
- เย็น (18:00 – 19:00 น.): ปีนคอนโดแมว + ซ่อนของเล่นให้หา
- ก่อนนอน (21:00 – 21:30 น.): วิ่งเล่นรอบห้อง
ทริคพิเศษ! ลองสลับของเล่นทุกสัปดาห์ เพื่อไม่ให้น้องเบื่อ และสร้างความตื่นเต้นตลอดเวลา
4. เสริมอาหารบำรุงขน ให้น้องฟู นุ่ม น่ากอด
อยากให้น้องแมวขนฟูนุ่มลื่น น่ากอดแบบสุดๆ ต้องไม่ลืมเรื่อง โภชนาการที่ช่วยบำรุงขน เพราะสุขภาพขนที่ดีไม่ได้มาจากแค่การอาบน้ำหรือแปรงขนเท่านั้น แต่ต้องเริ่มจากภายใน! การเลือกอาหารที่มีสารอาหารที่ช่วยบำรุงขนโดยเฉพาะ จะช่วยให้แมวมีขนเงางาม นุ่มลื่น และลดปัญหาขนร่วงได้เป็นอย่างดี
🐟 สารอาหารสำคัญที่ช่วยให้ขนน้องแมวสวยเงางาม
✅ โอเมก้า-3 และ โอเมก้า-6 – ช่วยให้ขนเงางาม ลดอาการขนแห้ง แตกปลาย และลดขนร่วง
✅ ไบโอติน (Biotin) – เสริมสร้างรากขนให้แข็งแรง ลดการหลุดร่วง
✅ ซิงค์ (Zinc) – ช่วยฟื้นฟูสุขภาพขนและผิวหนังให้ชุ่มชื้น
✅ วิตามิน A และ E – ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบของผิวหนัง
✅ กรดอะมิโนจำเป็น – กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นขน ทำให้ขนนุ่มและหนาขึ้น
🍗 อาหารที่ช่วยบำรุงขนแมวให้ฟูนุ่ม
🐟 ปลาทะเล เช่น แซลมอน ทูน่า และเทราต์ – มีโอเมก้า-3 และโปรตีนสูง
🥚 ไข่ไก่ – แหล่งไบโอตินและโปรตีนคุณภาพดี
🥑 อะโวคาโด – มีไขมันดีที่ช่วยให้ขนเงางาม
🥩 เนื้อสัตว์สด เช่น ไก่ และไก่งวง – ให้โปรตีนคุณภาพสูง ช่วยสร้างเส้นขนใหม่
📌 อาหารเม็ดที่ช่วยบำรุงขนแมวให้ฟูนุ่ม
DESERVE Holistic Grain Free – สูตร Fresh Salmon & Chicken เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะมี Salmon Oil ซึ่งอุดมไปด้วย โอเมก้า-3 และ 6 ที่ช่วยบำรุงขนและผิวหนัง ลดอาการขนร่วง และทำให้ขนเงางามขึ้นแบบธรรมชาติ
เคล็ดลับ!
💡 ผสมอาหารเปียกกับน้ำมันปลาแซลมอน 1-2 หยด เพื่อเพิ่มโอเมก้า-3 ให้น้องแมว
💡 หมั่นแปรงขนให้น้องทุกวัน เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และช่วยกระจายไขมันตามธรรมชาติของขน
💡 หลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารปรุงแต่งเยอะ เพราะอาจทำให้ขนแห้งและขาดสารอาหารที่จำเป็น
5. ตรวจสุขภาพแมวเป็นประจำ
การดูแลสุขภาพแมวไม่ได้มีแค่เรื่องอาหารหรือการออกกำลังกายเท่านั้น แต่ “การตรวจสุขภาพเป็นประจำ” ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เพราะแมวอาจมีปัญหาสุขภาพแอบแฝงที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า การพาน้องไปตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เรารู้ทันโรคต่างๆ และแก้ไขได้ก่อนที่จะสายเกินไป!
🏥 ตรวจสุขภาพแมวต้องเช็กอะไรบ้าง?
✅ น้ำหนักตัว – น้ำหนักแมวต้องเหมาะสม ไม่ผอมเกินไป หรืออ้วนเกินไป
✅ สุขภาพฟันและช่องปาก – ปากเหม็น น้ำลายไหลเยอะ อาจเป็นสัญญาณของปัญหาฟัน
✅ สุขภาพขนและผิวหนัง – ขนร่วงเยอะผิดปกติ มีแผล หรือรอยแดง อาจเกิดจากภูมิแพ้หรือโรคผิวหนัง ✅ ดวงตาและหู – ตาขุ่น มีขี้ตาเยอะ หรือหูมีคราบดำ อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ
✅ ระบบย่อยอาหาร – อึผิดปกติ ท้องเสีย หรืออาเจียนบ่อยๆ ต้องรีบปรึกษาสัตวแพทย์
✅ ตรวจเลือดและอวัยวะภายใน – ควรตรวจปีละครั้งเพื่อเช็กว่ามีโรคไต ตับ หรือโรคเรื้อรังอื่นๆ หรือไม่
🐾 ควรพาน้องไปหาหมอบ่อยแค่ไหน?
🔹 แมวอายุน้อย (ต่ำกว่า 1 ปี) – ควรพบสัตวแพทย์ทุก 3-6 เดือน เพื่อฉีดวัคซีนและตรวจสุขภาพเบื้องต้น
🔹 แมวโต (1-7 ปี) – ควรตรวจสุขภาพปีละ 1 ครั้ง
🔹 แมวสูงวัย (7 ปีขึ้นไป) – ควรตรวจสุขภาพทุก 6 เดือน เพราะอายุเยอะขึ้น ยิ่งต้องดูแลเป็นพิเศษ
🏡 วิธีดูแลสุขภาพแมวเบื้องต้นที่บ้าน
💡 สังเกตพฤติกรรม – ถ้าน้องมีพฤติกรรมแปลกไป เช่น ซึม ไม่ร่าเริง หรือเบื่ออาหาร อาจมีปัญหาสุขภาพ
💡 ดูแลเรื่องอาหารการกิน – ให้กินอาหารที่มีประโยชน์ และเลือกสูตรที่เหมาะกับสุขภาพของแมว
💡 หมั่นแปรงขน – เพื่อเช็กว่ามีขนร่วงผิดปกติ หรือมีแผลที่ผิวหนังหรือไม่
💡 เช็กอึและฉี่ของน้อง – ถ้ามีกลิ่นแรงผิดปกติ หรือสีแปลกๆ อาจเป็นสัญญาณของโรค
💡 ให้แมวดื่มน้ำเยอะๆ – เพื่อป้องกันโรคไตและทำให้สุขภาพดีขึ้น
📌 อยากให้น้องแมวตัวแน่น ลอง DESERVE เลย!
📍 ช้อปที่นี่: คลิกเลย